ชาติวุฒิ บุณยรักษ์

Chartvut Bunyarak, a man who fall in love with short story.

วันจันทร์, ธันวาคม ๑๘, ๒๕๔๙

ความเรียงเกี่ยวกับภาพยนต์:Cinderella Man


Cinderella Man-หลังฉากชีวิตวีรบุรุษ...


“ชีวิตนี้ดีแน่ แต่ต้องสู้ชีวิต!” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่จู่ๆ วลียอดนิยมนี้ ก็ผุดขึ้นในกระแสการรับรู้ของผม หลังจากชมภาพยนตร์เรื่อง ซินเดอเรลล่า แมน:วีรบุรุษสังเวียนเกียรติยศ จบ...นั่นเป็นสโลแกนของเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ในรายการของคุณ คำรณ หว่างหวังศรี-ผู้สื่อข่าวที่เราต่างก็คุ้นหน้ากันดีจากจอโทรทัศน์
มีความเป็นไปได้ประการหนึ่งว่า วลีดังกล่าวนั้นเกี่ยวพันอย่างยิ่งยวดกับคำโปรยปกหน้า บนกล่องวีซีดี...Based On The Extraordinary True Story
*...ใช่หรือไม่ว่าบางที ชีวิตของคนบางคนมันช่างเข้มข้น แร้นแค้นแสนสาหัสยิ่งไปกว่าชะตากรรมของตัวละคร ในนิยายน้ำเน่าที่เราเคยดูเสียอีก...เจมส์ เจ. แบรดด็อก หรือ จิม แบรดด็อก-อดีตนักมวยแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต (1935-1937) ก็เป็นหนึ่งในนั้น
“ในประวัติศาสตร์วงการหมัดมวย คงไม่มีเรื่องราวชีวิตใดน่าทึ่งยิ่งไปกว่า
เรื่องของ เจมส์ เจ. แบรดด็อก”
- เดมอน รันยอน
นั่นเป็นส่วนแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้...
Cinderella เป็นเรื่องราวของสาวสามัญชนคนหนึ่ง ที่ชีวิตเต็มไปด้วยบททดสอบมากมาย แต่ท้ายที่สุดก็ลงเอยด้วยดีกับเจ้าชายรูปงาม...ไม่ต่างไปจากชีวิตจริงของแบรดด็อก และนั่นเองจึงเป็นที่มาของฉายานาม ที่สื่อต่างก็พร้อมใจกันเรียกขานเขาด้วยคำๆ นี้ “Cinderella Man”
หนังเล่าย้อนไปในต้นทศวรรษ 1930s ช่วงที่อเมริกาประสบกับสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นล้มละลาย ผู้คนมากมายต่างพากันตกงานมากที่สุดจนเป็นประวัติการณ์ เช่นเดียวกับแบรดด็อก ก่อนหน้าจะตกต่ำถึงขั้นไปเป็นกรรมกรท่าเรือนั้น จิมเคยเป็นนักมวยดาวรุ่งพุ่งแรง ค่าตัวแพงมาแล้ว แต่ด้วยความบาดเจ็บทางกาย (มือหักครั้งแล้วครั้งเล่า) อันเป็นราคาที่จำต้องจ่ายเมื่อเลือกจะยืนอยู่บนสังเวียนผ้าใบ ทำให้อนาคตในวงการหมัดมวยของเขาตกต่ำลงเรื่อยๆ จนถึงขั้นเคยโดนผู้ชมโห่ไล่ลงจากเวที กับโดนป๊อปคอร์นเขวี้ยงหัวมาแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาและครอบครัวตกต่ำจนถึงขั้นโดนตัดน้ำตัดไฟ ลูกๆ ไม่มีอะไรจะกิน หนี้สินก็ล้นพ้นบานตะไท แต่จิมก็ยังสู้!
คล้ายๆ กันกับบรรดาผู้คนที่กลายเป็นตำนานคนอื่นๆ ซึ่ง “นักสู้” เหล่านั้น ล้วนแต่เคยผ่านช่วงชีวิตอันเลวร้าย ดิ่งลงสู่ก้นเหวที่ดูเหมือนจะไร้จุดสิ้นสุด ด้วยกันทั้งนั้น...แต่อย่างที่ใครบางคนเคยกล่าวไว้ ไม่ว่าเรื่องที่เรากำลังเผชิญอยู่ตรงหน้าจะเลวร้ายสักแค่ไหน แต่ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ สักวันหนึ่งเรื่องร้ายๆ นั้นก็จะผ่านพ้นไป...สวรรค์มีตา ฟ้าย่อมให้โอกาสคนดีเสมอ...วันหนึ่งโชคก็เข้าข้างนักสู้อย่างจิมอีกครั้ง แต่อย่างว่า...ทุกอย่างในชีวิตย่อมไม่ง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากไปเสียทั้งหมด เมื่อคู่ต่อสู้ในครั้งนี้ของจิม คือแชมป์โลกผู้เคยสังหารคู่ชกตายคาเวทีมาแล้วถึงสองราย!
Cinderella Man เป็นหนังดราม่าที่ดี แม้จะเป็นสูตรสำเร็จ (สำหรับหนังล่ารางวัล) ไปบ้างก็ตาม ใครที่กำลังรู้สึกแย่ๆ หรือเคยคิดว่าชีวิตของตัวเองแย่แล้ว ลองหาหนังเรื่องนี้มาดู คุณอาจจะซึ้งถึงคำพูดที่ว่า Life is Beautiful นั้นเป็นอย่างไร อีกทั้งกำลังใจสำหรับต่อสู้เรื่องร้ายๆ ในชีวิตของคุณอาจจะลุกโชนฮึกเหิมขึ้นมาทันทีทันใดก็เป็นได้...
ด้วยบทที่เข้มข้นเหลือคณากับภาพสวยๆ ที่ยังคงเส้นคงวาในแบบเดิม พิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นได้เป็นอย่างดีถึงมาตรฐานของผู้กำกับที่ชื่อ รอน โฮเวิร์ด (A Beautiful Mind, Far and Away, The Missing และ Apollo 13)
ด้านคุณภาพของการแสดงนั้นก็มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เรเน่ เซลวีเกอร์ เข้าถึงบทบาทของช้างเท้าหลัง ผู้เป็นกองหนุนสำคัญของเหล่าฮีโร่ทั้งหลายได้เป็นอย่างดี ยิ่งฝีไม้ลายมือของดาราออส
การ์อย่าง รัสเซล โครว์ คงไม่ต้องพูดถึง ฉากขอทานเรี่ยไรเงินจากทั้งหมู่มิตรและคนแปลกหน้า เพื่อนำไปจ่ายค่าแก๊สซึ่งค้างมานานหลายเดือนนั้น อาจทำให้ใครต่อใครต้องเสียน้ำตาเหมือนผมได้ไม่ยาก
และที่อยากจะให้จับตากันเป็นพิเศษก็คือ พอล จิอาแม็ตตี้ ผู้สวมบทเป็นทั้งโค้ชและโปรโมเตอร์ในคนเดียวกัน ชื่อของดาราหนุ่มใหญ่วัยกลางคนคนนี้ อาจจะไม่คุ้นหูคอหนังในบ้านเรานัก เหตุที่ไม่ได้สูงชะลูดตูดปอดยอดขุนพล อีกทั้งหน้าตาก็มิได้หล่อเหลาคมคายอย่างเป็นที่นิยมกัน หนำซ้ำหัวก็เถิกอีกตะหาก แต่เรื่องฝีมือในการแสดงนั้น ยากจะกังขาด้วยประการทั้งปวง เหตุนี้ เราจึงได้เห็นเขาโผล่หน้าอยู่บ่อยๆ ในหนังหลายเรื่องของหลากผู้กำกับยอดฝีมือ ดูอย่าง Sideway ของ อเล็กซานเดอร์ เพย์น (Citizen Ruth, Election และ About Schmidt) นั่นกระไร
วินาทีที่พลิกไปดูด้านหลังกล่องวีซีดี...ความยาว 144 นาที...ผมจึงได้รู้ว่าอัตชีวประวัติกว่าสองชั่วโมงครึ่งเรื่องนี้สนุกแค่ไหน!

.....................................

อ้างอิงข้อมูลจาก
http://www.jamesjbraddock.com/
* สร้างจากเรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยาย (ผู้เขียน)



All Rights Reserved.
2006 Copyright©Chartvut Bunyarak

1 ความคิดเห็น:

Anonymous ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เป้น่าจะไปเขียนลงนิตยสารนะ ดิ ดิ

วันศุกร์, มกราคม ๑๙, ๒๕๕๐ ๗:๐๗:๐๐ หลังเที่ยง  

แสดงความคิดเห็น

<< หน้าแรก