ชาติวุฒิ บุณยรักษ์

Chartvut Bunyarak, a man who fall in love with short story.

วันจันทร์, พฤศจิกายน ๑๓, ๒๕๔๙

ความเรียงเกี่ยวกับภาพยนต์:เพื่อนสนิท

เพื่อนสนิท-ความทรงจำกับความว่างเปล่า


ต่อให้ตัดความสัมพันธ์ที่ผมมีต่อเจ้าของบทประพันธ์ออกไป(อภิชาติ เพชรลีลา) หรือตัดการโปรโมทผ่านสื่อต่างๆ นับสิบวิธีจากเจ้าของหนัง ทั้งมิวสิควีดีโอที่นำเพลงเก่าเนื้อหาบาดใจ(สำหรับคนเคยแอบรักคนใกล้ตัว)มา Cover ใหม่ ทั้งการอัดโฆษณาทางโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ โปสเตอร์ ใบปลิว แฮนด์บิลล์ ฯลฯ...ผมก็ยังคิดว่าหนังเรื่องนี้มีดีให้เขียนถึงอยู่ดี
ก่อนชม ผมเคยอ่าน “กล่องไปรษณีย์สีแดง” รวดเดียวจบมาแล้ว ซึ่งไม่ปรกตินักสำหรับคนขี้เกียจอย่างผม นั่นเป็นตอนที่อัดอยู่บนรถสองแถวฝุ่นคลุ้ง เส้นทางจากหลวงพระบางมุ่งสู่วังเวียง โดยมีสาวลาวผิวขาว หน้าตาน่ารัก กลิ่นกายหอมรัญจวนใจนั่งเบียดกายอยู่ด้านข้าง หล่อนดูจะสนใจในสิ่งที่ผมกำลังอ่าน แต่เท่าที่เราทำได้ก็เพียงส่งยิ้มให้แก่กัน วินาทีนั้น...ผมเชื่อว่าเส้นแบ่งพรมแดนในใจเราจางหายไป ความต่างระหว่างสองวัฒนธรรมได้หลอมละลายกลายเป็นหนึ่งเดียว กล่าวให้ถึงที่สุดแล้ว ยามรักที่แท้แวบผ่านขั้วหัวใจ ผมเชื่อว่า สมมติสัจจะทั้งปวงกลายเป็นสิ่งไร้ความหมายสำหรับเราทุกคน...
ในความเบาหวิวเหลือทนของชีวิต
* หากมีสิ่งใดพอจะประทังความแล้งไร้นั้นได้บ้าง ก็คงเป็นความรักและมิตรภาพ...ใช่ว่าไม่เคยผ่านอดีตอันเจ็บช้ำและความทรงจำที่อยากจะลืม แต่ที่ผมยังศรัทธาอยู่เช่นนั้น เป็นเพราะผมเชื่อว่าแท้จริงแล้ว ความเจ็บปวดอันเกิดจากสัมพันธภาพที่สิ้นสุดหรือมิตรภาพซึ่งจบลง เป็นเรื่องของมนุษย์กระทำกับมนุษย์ล้วนๆ ความรัก(มิตรภาพ)ไม่เคยทำร้ายใครหรอก คนเราต่างหากที่ทำร้ายกัน ความรักและมิตรภาพ เป็นสิ่งสากลและเป็นภาษาสากลเสมอมา และจะยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่เสมอไป มิตรภาพเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ด้วยรอยยิ้มบางๆ เพียงครั้งเดียว ความรักก็เช่นกัน...
และด้วยความเป็นสิ่งสากล(สามัญ)เช่นนี้เอง หนังรัก หนังสือรัก เพลงรัก ละครรัก จึงได้รับความนิยมมากกว่าเนื้อหาในแนวอื่นเสมอมา จากทุกเชื้อชาติ ทุกภาษา ทุกชนชั้น...โอเปอเรเตอร์สาวในสำนักงานเล็กๆ แห่งหนึ่ง อาจเสพติดนิยายรักเรื่องเดียวกันกับสาวไฮโซทายาทอภิมหาเศรษฐีหมื่นล้าน ก็เป็นได้ นิสิตฯเกียรตินิยมอันดับหนึ่งคณะแพทยศาสตร์อาจเสพติดละครหลังข่าวเรื่องเดียวกันกับส้ม-เด็กสาวผู้วิ่งขายมาลัยอยู่ตรงสี่แยกรัชดาฯ ก็เป็นได้...เพราะความรักเป็นเรื่องของหัวใจไม่ใช่ใบปริญญา
ไม่แปลก...หากเรื่องราวของดากานดากับไข่ย้อย จะทำให้เราคิดถึงใครบางคนขึ้นมาอย่างจับใจ ก็ในเมื่อลิ้นชักความทรงจำของเราไม่ได้ว่างเปล่า มิใช่หรือ...ในตอนแรก ผมติดใจเรื่องความสมจริงของหนัง “เป็นไปได้เหรอวะ...หากเพื่อนสนิทของผมแอบชอบผม แล้วผมไม่รู้ เป็นไปได้เหรอวะ...หากผมแอบชอบเพื่อนสนิทสักคน แล้วผมจะทนเก็บไว้ในใจได้นานถึงสี่ปี โดยไม่พยายามจะบอกกับเธอเลย...” เมื่อตรองให้ดี ข้ามให้พ้นจากข้อจำกัดของความเป็นหนัง ผมพบว่าอะไรๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ความเขลาไม่เคยเข้าใครออกใคร ก็มิใช่มนุษย์เราเองดอกหรือ ที่นิยมทำเรื่องที่ซับซ้อนโดยตัวของมันเองอยู่แล้วอย่าง“ชีวิต”...ให้ซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก
โดยไม่รู้ตัว หนังเรื่องนี้อาจนำคุณย้อนเวลากลับไปในอดีต ทำให้คุณได้ระลึกถึงความรัก มิตรภาพ และผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต บางครั้งอาจจะทำให้เสียน้ำตา แต่ทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา ก็ทำให้ปัจจุบันของคุณไม่ว่างเปล่า...มิใช่หรือ...
สัญญา...ว่าผมจะไม่นินทากับใครว่าคุณเป็นบ้า
สัญญา...ว่าผมจะไม่บอกใครที่แอบเห็นคุณอมยิ้มอยู่คนเดียว
ลองหา “เพื่อนสนิท” มาดู แล้วคุณจะรู้ว่าความทรงจำเป็นทรัพย์สมบัติที่มีค่าเพียงใด.

..................................................
* สำนวนของภัควดี วีระภาสพงษ์ จากหนังสือ “ความเบาหวิวเหลือทนของชีวิต” โดย มิลาน คุนเดอรา สนพ.คบไฟ

All Rights Reserved.
2006 Copyright©Chartvut Bunyarak