ชาติวุฒิ บุณยรักษ์

Chartvut Bunyarak, a man who fall in love with short story.

วันเสาร์, มกราคม ๑๓, ๒๕๕๐

บทความเกี่ยวกับภาพยนต์:FLIGHT PLAN



FLIGHT PLAN – เขาหรือเรากันแน่ที่เขลา?

อาจเป็นเพราะผ่านตาภาพยนตร์แนว Suspense มามากพอควร ผมจึงไม่ได้รู้สึกรู้สาตื่นเต้นไปกับฉากเร้าใจคนดูอย่างที่ผู้สร้างต้องการให้เป็น แต่กลับไปหมกมุ่นครุ่นคิดถึงสารัตถะแท้จริงที่ซ่อนอยู่ในเนื้อหนังต่างหาก...
Flight Plan เล่าถึงเรื่องราวของหญิงบ้า (ในสายตาของผู้คนส่วนใหญ่) คนหนึ่ง ผู้ซึ่งเพิ่งสูญเสียสามีและลูกอันเป็นที่รัก (ในความเข้าใจของคนส่วนใหญ่) หล่อนจึงมี“เหตุ”มากพอที่จะกลายเป็นคนวิกลจริตได้ (ในความคิดของคนส่วนใหญ่) เมื่อผนวกกับสิ่งที่ทุกคนบนเครื่องบินลำนั้นได้รับรู้อย่างขาดข้อมูล ผ่านการเห็นด้วยสายตา ผ่านการได้ยินด้วยหู เปลี่ยนเป็น“คำตัดสิน”อันตื้นเขิน ซึ่งเกิดจากทัศนคติที่พร้อมจะโน้มเอียงจนกลายเป็นอคติได้อยู่ตลอดเวลา ด้วยตัวแปรและข้อจำกัดของความเป็นมนุษย์ต่างๆ นานามากมาย...
หญิงคนหนึ่งที่วิ่งวุ่นตามหาลูกสาวซึ่งดูเหมือนจะหายตัวไป บนเครื่องบินโดยสารลำใหญ่รุ่นใหม่ล่าสุด บรรทุกผู้คนกว่าห้าร้อยชีวิต ที่กำลังไต่เพดานบินอยู่บนระดับความสูงนับหมื่นฟุต ที่ย่านความเร็วกว่าหลายร้อยชั่วโมง จึงพร้อมจะกลายเป็นไอ้ตัวโง่งม เจ้าปัญหา น่ารำคาญในสายตาของทุกผู้คนได้ไม่ยาก (ในความรู้สึกของคนส่วนใหญ่)...
บ่อยครั้งในชีวิตที่ผัสสะทั้งห้า(ตาดู หูฟัง จมูกดมกลิ่น ลิ้นรับรส กายสัมผัส)อาจล่อลวงให้เราเดินสะเปะสะปะพลัดหลงเข้าไปติดกับดักแห่งมายาภาพ และด้วยความไม่เดียงสาของเราเอง ด้วยความเขลาของเราเอง ด้วยความอวดดีของเราเอง อาจแปรเปลี่ยนกลายเป็นมือที่มองไม่เห็น ยื่นมาปิดตาดวงที่สามแห่งเราให้มืดบอด บดบังทัศนียภาพแห่งปัญญาให้ปลาสนาการไปจากการรับรู้
เราจึงมีสภาพไม่ต่างไปจากหนูโง่ๆ ตัวหนึ่งที่ได้แต่วิ่งวนอยู่บนกงล้ออันเดิม ตะลึงเพริดไปในโลกของผัสสะ เวียนว่ายอยู่ในวังวนของความรัก โลภ โกรธ หลง เฝ้าไขว่คว้าแต่ในสิ่งที่ไม่มีวันเป็นจริง...ตราบจนเมื่อเราล้าและเหนื่อยมากพอนั่นล่ะ ที่เราอาจหยุดวิ่ง และเมื่อทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่ง...นิ่งเสียจนกระทั่งใจเราเองยังหยุดนิ่ง เงียบและสงบมากพอจนสติปัญญาก่อเกิด เราจึงพินิจสิ่งต่างๆ ตามสภาวะที่เป็นจริง เห็นสรรพสิ่งอย่างที่มันเป็นไป...และในวินาทีนั้นเอง ที่ตาดวงที่สามแห่งเราจักเปิดขึ้นอีกครั้ง และเราอาจตระหนักถึงความจริงที่ว่า แท้จริงแล้วที่ผ่านมานั้น เราหาได้เคลื่อนที่ไปไหนไกลจากจุดเดิมเลย แม้แต่เซนติเมตรเดียว...
จงอย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น เพราะมันอาจไม่ใช่ความเป็นจริงเสมอไป
ใช่หรือไม่ว่า ประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามา อาจช่วยทำให้เราเข้าใจในคำกล่าวนี้ได้ดียิ่งขึ้น จงอย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น ย่อมไม่ได้หมายถึงไม่ให้เชื่อในสิ่งที่ตามองเห็นเท่านั้น แต่ยังหมายถึงจงอย่าเชื่อในทันทีทันใดที่ได้เห็น โดยปราศจากการไตร่ตรองให้รอบคอบด้วยสติปัญญาเสียก่อน มิฉะนั้น การณ์อาจกลับกลายเป็นว่า “มีตาก็หามีแววไม่”...
หญิงสาวผิวขาว หน้าตาน่ารัก ตัวเล็กๆ ดูน่าทนุถนอม ดุจนางฟ้าตัวน้อยๆ ของใครบางคน แท้จริงแล้วอาจไม่ต่างจากนางมารร้าย ผู้คอยชักใย ใช้น้ำตาและความอ่อนแอดูน่าสงสาร บงการผู้อื่นอยู่เบื้องหลังด้วยความย่ามใจ...ในขณะที่สาวผิวคล้ำจากบ้านนอกคอกไกล หน้าตาดุจนางอิจฉาตัวร้ายในละครหลังข่าว แท้จริงแล้วอาจประดุจนางฟ้าจุติมาจากสรวงสวรรค์ ผู้ทำความดีโดยไม่เคยมีเงื่อนไข ไม่หวังแม้แต่น้อยที่จะให้ใครสักคนมาคอยมองเห็น...
ประเด็นน่าสนใจของ Flight Plan อยู่ที่ว่า...เป็นเธอเองนั่นแหละที่ “บ้า” หรือเพราะคนส่วนใหญ่กันแน่ที่ “โง่”...
สำหรับผมแล้ว Flight Plan คือหนังปรัชญา!





All Rights Reserved.
2006 Copyright©Chartvut Bunyarak